ประมาณกันคร่าวๆ ว่า ในขณะที่พ่อหนุ่มไปถึงดวงดาวนั้น
สาวคนรักสามารถตะเกียกตะกายตามฝันไปทันที่จุดหมายปลายทาง
ไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ แล้วอีก 60 เปอร์เซ็นต์นั้น
เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ... ก็ฝันค้างไปซิคะ
ไม่น่าถามให้ปวดหัวใจเลย
" แฟนดิฉันนะคะ หาน้ำอดน้ำทนไม่ได้เลย
และก็เล้าโลมปลุกอารมณ์ความรู้สึกของผู้หญิงไม่เป็นเลย
มาถึงก็จูบๆ 2-3 ที จับหน้าอกอีกที
สองที ที่ร้ายก็คือขยับ 2-3 ครั้งก็เรียบร้อย
ยังมีหน้าถามตอนจบอีกว่า โอเคไหม ดีนะที่ไม่เหมือนแฟนบ้านติดกัน
รายนั้นพอเรียบร้อยก็นอน
หันหลังให้กรนคร็อกๆ ปล่อยให้ยายเมียนอนลืมตาโพลงอยู่คนเดียว
นี่ก็เลิกกันไปเรียบร้อยแล้ว"
" ผมก็กลุ้มใจเหมือนกันครับ ไม่คิดว่าเราบกพร่อง
คิดว่าเรามีความสุขสมด้วยกันเกือบทุกครั้ง
จนมาวันหนึ่ง ผมเกิดกลับบ้านเร็ว เห็นมี
เสียงครวญครางแปลกๆ ในห้องนอน เลยแอบย่องไปแง้มประตูดู
ภาพที่เห็นทำเอาผมขนลุกซู่เลย เพราะภรรยากำลังมีความสุขอยู่กับอวัยวะ
เทียมขนาดกำลังเหมาะ และส่งเสียงด้วยความหฤหรรษ์
ผมค่อยๆ ย่องออกไปขับรถออกจากบ้าน ไม่คิดไม่ฝันว่าที่เธอมีความสุขกับผมนั้น
เธอแกล้งทำ ผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าและอายตัวเองมาก
จากนั้นมาจนบัดนี้ ความเชื่อมั่นในตัวผมหายไปเกือบหมด
และอารมณ์พิศวาสของ
ผมก็หายไปมาก จนภรรยาทักว่า เหนื่อยหรือ เห็นไม่มีอารมณ์จะมีอะไรกัน
ผมก็ไม่กล้าบอกว่าไปเห็นภาพอะไรมา "
" แฟนเขาก็ทำดีนะคะ แต่จะเป็นเพราะเราเป็นคนหัวอนุรักษ์นิยมหรือเปล่าก็ไม่รู้
เพราะจะถึงจุดสุดยอดได้ต้องใช้วิธีการช่วยตัวเองด้วย
การกระตุ้นปุ่มคลิตอริสทุกที เวลาที่เขาขยับอยู่ภายในก็แค่รู้สึกสบายๆ
เท่านั้น ไม่เสียวอะไรเหมือนที่เคยอ่านในตำรา
จึงต้องช่วยตัวเองตาม
หลังเขา บางทีเขาไปต่างจังหวัดโทรศัพท์คุยกันยังเคยช่วยตัวเองไปด้วยเลยนะคะ
แล้วก็บอกเขาด้วยว่าคิดถึงเขา "
"ภรรยาผมนะครับ ถ้าเรามีอะไรกันในท่าธรรมดาที่เธอเป็นฝ่ายนอนตั้งรับนั้น
เธอจะไม่เสร็จสมอารมณ์หมายเลย นอกจากให้เธออยู่ด้าน
บน ไม่ว่าจะหันหน้าหากันหรือเธอหันไปทางเท้าผม
เธอก็ถึงทั้งนั้น ผมจึงยอมให้เธอปฏิบัติการก่อนจนเรียบร้อย
จากนั้นเธอก็จะยินยอมผม
ในทุกท่วงท่าเลย"
"อยากให้พวกผู้ชายเข้าใจผู้หญิงนะคะ
ว่า ผู้หญิงนั้นต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อแฟนก่อน
จึงอยากจะร่วมรักด้วยอย่างมีความสุข"
นั่นคงจะเป็นบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสุขสมจากการร่วมรักที่เป็นสุดยอดปรารถนาของมนุษยชาติ
และเป็นปัญหาให้หลายต่อ
หลายคู่ต้องเลิกร้างกันไปก่อนเวลาอันควร ฉันเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กซ์แบบตันตระ
ซึ่งเป็นเทคนิคที่มาจากอินเดียยุคโบราณบางส่วน
ก็เลยอยากจะถ่ายทอดให้ลองไปปฏิบัติกันดู อาจจะถึงจุดสุดยอดในแบบตันตราดูบ้าง
ก็เป็นได้
โดยวิธีการนี้ ฝ่ายหญิงจะต้องเคยฝึกการออกกายบริหารของกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน
หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การบริหารช่องคลอด
ที่เรียกว่า "คีเจล เอ็กเซอร์ไซส์"
นั่นเอง ไม่อย่างนั้นคงจะถือปฏิบัติได้ยาก
เพราะต้องอาศัยการขมิบกล้ามเนื้อที่อยู่โดยรอบช่องคลอด
ในการ
นำพาเอาทั้งสองขึ้นสูสวรรค์
และหนุ่มสาวจะต้องร่วมรักกันในท่าทีเรียกว่า
Yab Yum ซึ่งฉันขอนำเอาคำบรรยายของคุณเดวิด
รัมสเดลที่บรรยายการขึ้น
สวรรค์แบบตันตราไว้ในหนังสือขายดีชื่อ SEXUAL
ENERGY ECSTASY ท่วงท่าดังกล่าวก็คือ การนั่งหันหน้าเข้าหากัน
โดยแยกขาทั้งสอง
ข้างออก และค่อยๆ กระเถิบเข้าหากัน จนฝ่ายชายสามารถที่จะผ่านความเป็นชายของเขาเข้าไปภายในส่วนสงวนของฝ่ายหญิงได้
เป็นการเริ่ม
ต้นของสัมพันธภาพที่จะดำเนินต่อไปร่วมกัน
จนกระทั่งไปถึงจุดสุดยอดในแบบตันตระ
เอาเป็นว่า ทั้งสองฝ่ายหลอมร่างกายส่วนสงวนที่พึงมอบให้กันและกันในช่วงกลางลำตัว
ในท่านั่งหันหน้าเข้าหากันเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นก็ขอให้เริ่มเป็นขั้นเป็นตอน
ดังนี้
ฝ่ายหญิงทำการขมิบกล้ามเนื้อโดยรอบช่องคลอดของเธอเป็นจังหวะ
ช้าๆ โดยที่ฝ่ายชายอยู่นิ่งๆ และซึมซับสัมผัสรักที่เธอมอบให้
จับความรู้สึกสัมผัสดังกล่าวให้ได้ และชื่นชมในรสสัมผัสรักดังกล่าวที่เธอมอบให้
โดยฝ่ายชายห้ามเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องมีใจจดจ่อ
อยู่กับปฏิบัติการของเธอ มองเข้าไปในดวงตาของเธอด้วยความรัก
ฝ่ายหญิง ทำการขมิบกล้ามเนื้อโดยรอบส่วนสงวนของเธอเป็นจังหวะ
ช้าๆ โดยที่ไม่มีการขยับเขยื้อนส่วนสะโพกหรือยกสะโพกขึ้นลงแต่อย่างใด
พูดง่ายๆ ก็คือ ให้ทั้งสองฝ่ายนั่งนิ่ง หลอมร่างกายเข้าหากัน
แต่ให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายขยับกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกรานแต่เพียงอย่างเดียว...
ด้วยการมีสมาธิในการสัมผัสรัก คุณและเธอ อาจจะมีการเคลื่อน
ไหว ส่วนที่อยู่เหนือเอวขึ้นไปได้ เช่น ฝ่ายชายใช้มือสัมผัสทรวงอกของเธอ
นวดหรือกระตุ้นด้วยเทคนิคต่างๆ ที่เธอชื่นชอบ
รวมทั้งอาจจะ
โอบกอดกัน จูบกันอย่างดูดดื่มและซาบซึ้งได้
หรืออาจจะใช้มือลูบผมลูบแขน ซึ่งกันและกัน
โดยที่ไม่ขยับเขยื้อนสะโพกแต่อย่างใด นอกจาก
ขมิบกล้ามเนื้อเท่านั้น ที่ฝ่ายหญิงเป็นคนทำอย่างสม่ำเสมอ
ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจว่า ในการปฏิบัติการครั้งนี้
ฝ่ายหญิงเป็นผู้ให้ เป็นผู้นำการกระทำ
ฝ่ายชายมีหน้าที่ยอมรับโดยดุษฎี เป็นการฝึกความอดทนอดกลั้นและความเป็นสุภาพบุรุษในตัว
ฝ่ายหญิงจะเป็นผู้มอบพลังแห่งความรักของ
เธอให้ฝ่ายชาย ผ่านทางการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อส่วนนั้นที่กระชับแน่นกับของเขา
กระแสของพลังงานแห่งความรัก จึงเชื่อมต่อถึงกันเป็น
วงจร โดยไม่มีการสะดุด ด้วยเหตุนี้ พลังรักจึงหมุนวนไปตลอดร่างกายของเขาและเธอทั้งสอง
พยายามทำให้ร่างกาย จิตใจ หลอมเป็นหนึ่ง
เดียว ด้วยความสงบและผ่อนคลาย ดังนั้น ในการปฏิบัติการครั้งนี้
จึงจำต้องหาทางกระทำในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว
เงียบสงบ และ
ปราศจากเสียงรบกวนจากเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
เมื่อปฏิบัติการดังกล่าวไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว
ฝ่ายชายก็จะรู้สึกถึงสัมผัสรักที่สาวคนรัก
มอบให้ ผ่านการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อรอบส่วนสงวนของเธอที่แนบแน่นอยู่กับส่วนนั้นของเขา
จนในที่สุด ทั้งสองก็จะเกิดการตื่นตัวและ
ความเร้าอารมณ์ทางเพศก็จะเพิ่มขึ้น...เพิ่มขึ้น
อย่างไม่มีขอบเขตจำกัด และไม่นานต่อมา ทั้งสองก็จะรู้สึกได้ว่า
ใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้ว สิ่งที่
ควรจะทำในขณะนั้นก็คือ ฝ่ายหญิงจะต้องลดจังหวะการหดรัดตัวลง
ลดความแรงของการหดรัดตัวลง หรือหยุดการหดรัดตัวไปชั่วคราว
เพื่อยืดเวลาในการหลั่งของฝ่ายชายออกไป แต่ความสุขที่ยังคงอยู่ภายในของกันและกัน
จะยังคงดำรงอยู่ และเป็นสายใยรักที่โยงเข้าหากัน
กล่าวกันว่า ถ้าสามารถยืดเวลาของการหลั่งออกไปได้นานถึง
15 นาที ทั้งสองจะสามารถสัมผัสได้ถึงสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีประจุ
ไฟฟ้าแห่งความสุข ขึ้นมาปกป้องทั้งสองจากสิ่งแวดล้อม
จนรู้สึกว่า เราสองคนเป็นของกันและกันอย่างมีความสุข
โดยไม่มีอะไรมาแบ่งแยก
รวมทั้งสามารถที่จะแยกตัวออกมาจากสิ่งแวดล้อมได้...
โดยเป็นแห่งเดียวกันจากการหลอมรวมทั้งร่างกายและจิตใจเข้าด้วยกันผ่านทางการ
ร่วมรักในรูปแบบของตันตรา พยายามอยู่ในภวังค์แห่งความสุขแบบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
และเมื่อคุณสองคนพร้อมที่จะหลั่งความรัก
ออกมาเข้าหากันแล้ว ก็ปล่อยความรักออกมาได้...
เมื่อนั้น ที่เขาและเธอทั้งสองจะรู้สึกได้ว่า
การไปถึงจุดสุดยอดนั้น มันเป็นจุดสุดยอดใน
จุดสุดยอดจริงๆ มันทั้งเร่าร้อน, รุนแรง เหมือนระเบิดขนาดยักษ์ที่ระเบิดออกมาจนกระทั่งอิ่มเอมเปรมใจ
ไปกับความสุขที่ได้รับร่วมกัน
เชื่อกันว่า เซ็กซ์แบบตันตระนั้นเป็นเซ็กซ์ที่หลอมทั้งร่างกาย
จิตใจ รวมทั้งจิตวิญญาณเข้าด้วยกัน ...สำหรับคนสองคนที่รักกัน
ปรารถนาที่จะเป็นของกันและกันด้วยความสุขสม
ความเอิบอิ่มจากรสรัก จากความสุขสมในการร่วมรักนั้น
แม้ว่าจะเป็นความสุขทางกาย แต่
จิตใจที่แจ่มใส เบิกบาน อยากให้คู่ของตนเองมีความสุข
ก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตกันต่อไป
|